2556-04-13

เขียนบ้าง : Bungaku Shojo ทำให้ฉันต้องเขียนอีกครั้ง


สวัสดีค่ะ,
หายไปนานมากๆ ทีแรกตั้งใจว่าจะเขียนให้ได้เดือนละเอนทรี่แล้วนะเนี่ย
แต่แย่กว่าที่คิดไว้ ฮ่าๆ เป็นเพราะว่ายุ่งๆ พอว่างก็ทำอย่างอืนไม่ได้มาดูบล๊อคเท่าไหร่
แอบตกใจมากพอมาเห็นview ยอดมันเพิ่มขึ้นเยอะมากๆจนน่าตกใจเลยล่ะค่ะ

ต้องขอบคุณทุกคนที่ผ่านมาเยี่ยมบล๊อคเราด้วย
หวังว่าสิ่งที่เขียนๆไปในบล๊อคของเราคงจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง

ทำการบ้านมาอย่างดีแล้วหลังจากดูอนิเมะเรื่องหนึ่งจบ
ไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมมายิ่งชอบ เลยอยากจะมาระบาย "ความประทับใจ" หลังจากดูซักหน่อย


ใช่เลยตามหัวข้อค่ะ วันนี้จะมาคุยเรื่อง Bungaku Shojo หรือสาวน้อยวรรณกรรมนั่นเอง

 photo 1_zps115a4f57.png

Bungaku Shojo เป็นนิยายของ Mizuki Nomura จากที่หาข้อมูลมามีออกมาด้วยกันแล้ว 16 เล่ม (รวม side story กับฉบับรวมเรื่องสั้นด้วยค่ะ) เฉพาะเนื้อเรื่องหลักก็จะมี 8 เล่ม ที่เราลองหาหน้าปกมาให้ดูเจอ 6 เล่มด้วยกัน ตีพิมพ์ฉบับภาษาอังกฤษด้วยค่ะ ก็ตามชื่อเดิมเลย "Book Girl"

 photo 2_zps7c5358bb.jpg

ในส่วนของอนิเมะผลิตโดย Production I.G ที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆออกมามากมาย ส่วนตัวชอบคานะอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องนี้พากย์เสียงโทวโกะด้วย ดูเพลินและฟังเพลินกันเลยทีเดียวค่ะ

ก่อนจะดูเราเองก็งงมาก ว่าทำไมมี Bungaku Shojo..... ย่อยๆตั้ง 3-4 อันแหน่ะ จะดูยังไงละเนี่ย??
(มีใครเป็นเหมือนเราบ้างไหมคะ ^^)

ทีแรกลองไปหาข้อมูลลำดับการฉายเป็นแบบนี้ค่ะ
Bungaku Shoujo - Kyou no Oyatsu ~Hatsukoi~ (December 26, 2009)
ฺBungaku Shojo Movie (May 1, 2010)
Bungaku Shōjo Memowāru I -Yumemiru Shōjo no Pureryūdo- (June 25, 2010)
Bungaku Shōjo Memowāru II -Sora Mau Tenshi no Rekuiem- (October 29, 2010)
Bungaku Shōjo Memowāru III -Koisuru Otome no Rapusodi- (December 24, 2010)

เค้าบอกว่า memowaaru เป็นเรื่องของโคโนฮะและสามสาวค่ะ เนื้อเรื่องก็จะเกี่ยวข้องกับตัว movie อยู่ เราเลยลองดูแบบนี้ค่ะ.. mem I, II, III, movie ปิดท้ายด้วย kyou no oyatsu hatsukoi (เดี๋ยวจะบอกทีหลังว่าทำไมถึงดู kyou no oyatsu hatsukoi สุดท้าย ^^ ) ส่วนตัวคิดว่าดูแบบนี้โอเคมากค่ะ ได้ทำความรู้จักกับตัวละครก่อนไปดู movie ก็จะรู้ความเป็นมาความสัมพันธ์ของแต่ละคน ช่วยทำให้เราอินกับ movie มากขึ้นด้วยแหละ 

เรายังไม่เคยอ่านหนังสือเลยล่ะค่ะ การเล่าหรืออธิบายของเราอาจจะไม่ถูกต้องนักต้องขออภัยด้วย ยังไงแฟนพันธุ์แท้ของสาวน้อยวรรณกรรมเปิดมาอ่านก็อย่าพึ่งว่ากันเลยนะคะ สามารถเเนะนำให้เพิ่มเติม-แก้ไขได้ค่ะ ยินดีรับฟัง ในเอนทรี่นี้จะขออธิบายตามอนิเมะที่ดูแล้วกันนะคะ 

การดำเนินเรื่องถึงแม้จะชื่อว่าสาวน้อยวรรณกรรมแต่เนื้อเรื่องก็เกี่ยวข้องกับชีวิตรอบตัวของโคโนฮะเป็นหลักมากกว่า (แต่ถ้าดูจบแล้วจะรู้เองว่าโคโนฮะนี่แหละเกี่ยวข้องกับชื่อสาวน้อยวรรณกรรมเต็มๆเลย)

เรามารู้จักตัวละครกันหน่อยดีกว่า ใครเป็นใครบ้าง..
(แนะนำตัวละครอยู่ดีๆ หลุดสปอยด์ออกมาด้วยพอประมาณ ระวังกันด้วยนะคะ)

 photo KonohaInoue_zpsa1bff1c8.jpg
โคโนฮะเป็นเด็กหนุ่มธรรมดา เป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนของโทวโกะและเป็นสมาชิกชมรมวรรณกรรมเพียงคนเดียว มีน้องสาวน่ารักมากๆหนึ่งคน เค้าต้องการใช้ชีวิตแบบธรรมดา แต่ก็มีความสามารถที่ไม่ธรรมดาแอบซ่อนอยู่ = =''

 photo TohkoAmano_zpse2a3fab5.jpg
โทวโกะสาวน้อยวรรณกรรมผู้หลงไหลในรสชาดของวรรณกรรม (ลองชิมแบบเธอดูนะคะ = ='') ผมเปียซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสาวน้อยวรรณกรรมโทวโกะได้มาจากคุณแม่ (เสียชีวิตแล้ว) ตอนนี้อาศัยอยู่กับคุณป้า (แม่ของริวโตะ) โทวโกะถูกคุณพ่อสอนในวัยเด็กว่าเธอสามารถลิ้มรสวรรณกรรมต่อหน้าคนที่รักได้ นอกเหนือจากนั้นอย่าพึ่งเลยลูก คนอื่นๆที่อยากอ่านวรรณกรรมที่หนูจะลิ้มก็มีนะเออ แต่แล้วเจ้าโคโนะฮะก็มาเห็นเข้า..(ด้วยความบังเอิญน่ะนะ)

 photo MiuAsakura_zps2b762f19.jpg
เพื่อนสมัยเด็กของโคโนฮะ (มาแล้วไง!!) ผู้ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน เธอเป็นสาวน้อยมืดมน ดูไปเราก็อยากจะเกลียดเธอมากแต่ก็เกลียดไม่ลงจริงๆ 

 photo NanaseKotobuki_zps7d1ba25a.jpg
เพื่อนร่วมห้องของโคโนฮะ เธอซึนมาก ซุ่มซ่ามเป็นที่สุด แต่น่ารักมากค่ะ 

 photo ChiaTakeda_zps87fff1ea.jpg
รุ่นน้องของทุกๆคน เธอเป็นคนที่ลึกลับดี(สำหรับเรา) ทำเราช็อคไปตั้งสองรอบแหน่ะ = =''

 photo MoriKurara_zps33b04683.jpg
เพื่อนแสนดีสุดๆของนานาเสะ เชียร์นานาเสะให้รุก เราชอบมากจริงๆ 5555

 photo KazushiAkutagawa_zps2cd9ed25.jpg
คนนี้คือเพื่อนของโคโนฮะ ลึกลับอีกแล้ว 

 photo RyuutoSakurai_zps294e4121.jpg
ริวโตะ ลูกพี่ลูกน้องของโทวโกะ 

 photo MakiHimekura_zpse04b60cb.jpg
เพื่อนของโทวโกะ มีบทบาทสำคัญยิ่งใน movie ท้ายๆค่ะ

ต่อไปจะเริ่มการสปอยด์ด้วยรูปภาพและคำบรรยายนะคะ
หากเกรงว่าจะเสียอรรถรสในการชมเลื่อนข้ามได้เลยค่ะ



 photo 7-1_zpsf7e0796f.jpg
ใต้ต้นแม็กโนเลียเป็นที่ที่โคโนฮะได้พบกับโทวโกะ

เพราะต้นแม็กโนเลียก็ทำให้รู้สึกชอบเรื่องนี้มากเหมือนกัน แม็กโนเลียเป็นไม้ยืนต้นที่ใหญ่มาก ในชีวิตนี้เราก็เคยเห็นอยู่นับครั้งได้เลย เพราะหาดูได้น้อยมากจริงๆ (และต้นก็ไม่สูงมากขนาดในเรื่องเลยค่ะ) เคยได้ยินมาเค้าบอกว่าแม็กโนเลียเป็นสัญลักษณ์แห่งความสง่างาม ไหนจะเรื่องของความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ เพราะดอกแม็กโนเลียดูเหมือนจะบอบบางมาก แต่พอได้สัมผัสดูแล้วกลับแข็งแรงกว่าที่เห็น (เป็นความจริงเลยค่ะ แต่ถ้านานๆเริ่มแห้งแล้วก็ไม่แน่) และที่น่ารักกว่านั้นคือ พอถึงฤดูใบไม้ผลิก็จะบานออกดอกสวยงามพร้อมกันทั้งตนเลยค่ะ คงจะเหมือนกับในเรื่องที่เราได้เห็นกันแหละนะ


โทวโกะเป็นสาวน้อยวรรณกรรมที่ชื่นชอบการ"ลิ้มรสวรรณกรรม" เธอสามารถเล่าเรื่องราวที่เธอลิ้มรสแล้วให้คนอื่นฟังได้แบบบรรทัดต่อบรรทัดเลยทีเดียว แต่..คนอื่นจะอินหรือไม่อินไปกับเธอนั้นอีกเรื่องนึง 555

 photo Natsuiro-subBungakuShoujoMemoirI-Yume-MiruShoujonoPrelude-DVD854x480x264AACA252FBA914-02-03_zps5da1bac6.jpg
แม่ของโทวโกะก็เป็นนักวรรณกรรมนะคะ ทรงผมของเธอปัจจุบันก็ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากแม่ ผมเปียเป็นสัญลักษณ์ของสาววรรณกรรม... ว่างั้นแหละ 


ในตอน Yumemiru Shōjo no Pureryūdo เป็นครั้งแรกที่โทวโกะได้อ่านงานเขียนของใครบางคนแล้วทำให้เธอถึงกับหลงรัก เชียร์ให้ตีพิมพ์จนได้ และหนังสือเรื่องนั้นก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ดูเหมือนจะดีแต่อีกมุมนึงนั้นในความสำเร็จเดียวกันมีใครบางคนที่ต้องเสียใจจนหันเหชีวิตตัวเองไปอีกทาง

 photo Natsuiro-subBungakuShoujoMemoirI-Yume-MiruShoujonoPrelude-DVD854x480x264AACA252FBA914-03-49_zps126d8e42.jpg
โทวโกะไปเจองานเขียนที่บก. กำลังจะทิ้ง

 photo 3-3_zps466c5278.jpg
ขณะลิ้มรสวรรณกรรมเธอจะเป็นขนาดนี้เชียวนะ 

 photo 4-1_zps8fe7f2a0.jpg
เมื่อหนังสือเล่มนั้นวางจำหน่าย โทวโกะเธอตามเชคเรตติ้งตลอด 555

เมื่อผลงานแจ้งเกิดประสบความสำเร็จความคาดหวังอื่นๆ ก็ตามมา แต่นักเขียนมัธยมคนดังกลับปฏิเสธงานเขียน ทำให้แฟนๆ รวมทั้งโทวโกะเศร้าไปตามกัน

 photo 5-1_zpsdd0570b6.jpg
น้องโทวโกะยามผิดหวังค่ะ

แต่ว่า โชคชะตาฟ้าลิขิต วันนึงขณะเดินผ่านหลังห้องเรียน โทวโกะได้ยินเสียงอาจารย์ขานชื่อนักเรียนคนหนึ่งเป็นชื่อที่เธอแสนจะคุ้นเคย เด็กผู้ชายคนนั้น..

 photo 6-1_zps3db04693.jpg

 photo 1-10_zpsf1fcb569.jpg
โคโนฮะกับการพบเจอการลิ้มรสวรรณกรรมในแบบของโทวโกะครั้งแรก



สำหรับ Sora Mau Tenshi no Rekuiem เค้าเริ่มต้นด้วยเธอ ฉัน และท้องฟ้ากันแบบนี้ึ่ค่ะ...
 photo 2-2_zpsa8cf737c.jpg

เป็นการเล่าเรื่องต่างๆ ผ่านมิอุเพื่อนสมัยเด็กของโคโนฮะ ชีวิตที่แสนจะรันทดของเธอ มีเพียงวรรณกรรมที่อ่านแล้วทำให้เธฮลืมความทุกข์ใจจากคนรอบข้างไปได้บ้าง วรรณกรรมเป็นเหมือนเพื่อนคนนึงของเธอ และวรรณกรรมก็ทำให้เธอมีเพื่อน 

 photo 3-3_zpsa70b51ae.jpg
ชีวิตวัยเด็กของมิอุต้องเผชิญกับปัญหารอบตัว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นค่อยๆหล่อหลอมให้เธอเป็นคนแบบนั้นแหละ..

 photo 4-1_zpsfbf4d0b1.jpg
เพื่อนคนแรกทีสนใจเรื่องเล่าของเธอ ให้กำลังใจและคอยอยู่ด้วยเสมอ 

 photo 5-1_zpsb75a0298.jpg
เหตุการณ์ต่างๆที่เผชิญมาด้วยกัน ความฝัน ความเชื่อมั่น กำลังใจ แน่นอนว่าเวลาผ่านไป ความรู้สึกก็ต้องเริ่มพัฒนา โดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว (จริงหรอ?)

มิอุอยากเป็นนักเขียน มันเริ่มจากตอนที่เธอเล่าเรื่องที่แต่งเองให้โคโนฮะฟังตอนเด็ก แต่แล้วด้วยอะไรบางอย่างก็ทำให้เธอได้ทำความผิดอย่างหนึ่งกับโคโนฮะเกี่ยวกับเรื่องเล่า และก็ยังเป็นเช่นนั้นเรื่อยมาจนกระทั่งมีการประกาศรับงานเขียนโดยนักเขียนหน้าใหม่ แน่นอนว่าเป็นโอกาสที่ดี โคโนฮะเป็นกำลังใจให้มิอุเต็มที่เพื่อที่จะเขียนเรื่องส่ง

 photo 6-1_zps738d62f9.jpg

 photo 7-1_zpsea3b86a1.jpg
เรื่องที่ถูกเลือกให้ตีพิมพ์เป็นของใครกัน แต่เพราะสิ่งนั้นทำให้ความทุกข์ที่เก็บไว้ในใจของมิอุประทุขึ้นมาอย่างหนัก ความหวัง ความฝัน หรืออะไรกันที่เธอสูญเสีย? ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเหตุผลเพียงพอแล้วหรือ? ที่จะทำให้เธอตัดสินใจเช่นนั้น... (ต้องไปติดตามกันเองค่ะ)


ต่อมา Koisuru Otome no Rapusodi ส่วนตัวแล้วชอบตอนนี้มากกกก ที่สุดเลยค่ะ ดูเป็นเรื่องป๊อบๆ ใสๆ จากที่ดูตอนที่ผ่านมาแล้วดูดราม่าไปหน่อยมาดูตอนนี้แล้วก็รู้สึกโอเคเลยล่ะ ว่าด้วยเรื่องความรักของสาวซึน..

 photo 8-1_zpsd8ea84a5.jpg


ชอบเพื่อนของนานาเสะมากค่ะ พยายามเชียร์+แซวเพื่อนเป็นอย่างดี ตอนทฤษฎีพาฟลอฟเราฮามาก แบบว่าคิดได้ยังไง 5555 
 photo 9-1_zpsd1f30ec1.jpg
ทฤษฎ๊ของพาฟลอฟก็คือ การตอบสนองต่อสิ่งเร้าเมื่อมีเงื่อนไข ในที่นี้นานาเสะทำหน้าไม่ถูก (ก็คนมันเขินนี่เน๊อะ = ='' พอจะเข้าใจ) และชอบพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องเวลาเจอหน้าโคโนฮะ เลยถูกจับมาฝึกการตอบสนองเมื่อเจอโคโนฮะโดยใช้รูปภาพไปก่อน


 photo 10-1_zpse934ea9d.jpg
ไม่ใช่ว่านานาเสะจะชอบโคโนฮะแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยหรอกนะ มันก็มีที่มาที่ไปของมันแหละ

 photo 11-1_zpsd7686072.jpg
เพราะอย่างนั้นเธอจึงคิดที่จะทำอะไรบ้างซักอย่าง..

 photo 12-1_zps74c812dc.jpg
ถึงสิ่งที่ตั้งใจจะมีอุปสรรคเยอะแยะเต็มไปหมดจนทำให้ล้มไม่เป็นท่า (ล้มจริงๆนะ Orz.) แต่ผลพลอยได้มันก็ค่อนข้างจะดีล่ะนะ

และ Kyou no Oyatsu ~Hatsukoi~ เป็นเรื่องราวของโทวโกะและสมาชิกชมรมเพียงหนึ่งเดียว โคโนฮะ กิจกรรมของชมรมคือการเสิร์ฟของว่างให้โทวโกะ 5555 และพ๊อยต์ของเรื่องเลยก็คือสิ่งนี้ค่ะ
 photo 14-1_zpsda38345d.jpg
ความจริงเราดูตอนนี้สุดท้ายเลยหลังจากดู movie จบ เพราะว่าตอนจบในมูฟวี่นั่นมัน... แล้วพอมาดูตอนนี้ตามมันให้อารมณ์เติมเต็มมากว่า ได้ดูสมัยที่สองคนนี้เค้าอยู่ชมรม ทำกิจกรรมชมรมด้วยกันน่ารักดีค่ะ

มากันที่ movie เรื่องราวต่างๆ ได้ดำเนินไปเหมือนเดิม คือ เชื่อมเข้ากันกับตอนย่อย 3 ตอนที่เล่ามาข้างต้น ในที่สุดตู้จดหมายของชมรมวรรณกรรมก็มีจดหมายมาหย่อนแล้ว..

 photo 15-1_zps9a4b2d6f.jpg
เหมือนจะเป็นเรื่องล้อกันเล่นแต่แม้จริงแล้วภาพนี้มีความหมายแฝงอยู่ โทวโกะและโคโนฮะจึงเริ่มตามหาความจริงว่าผู้ส่งภาพนี้มาคือใคร และกำลังต้องการอะไรอยู่

 photo 16_zpsf1fb6bc8.jpg
การพบกันที่ทำให้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลง ความขมขื่นลึกๆที่แฝงอยู่ภายใต้รอยยิ้มซื่อๆของโคโนฮะ ความจริงในเรื่องที่กำลังตามหาจึงค่อยๆ ถูกเปิดเผยขึ้น...

 photo 17_zpse2a479a9.jpg
ความจริงที่กำลังเผชิญนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนทุกข์ใจ แต่คนมีความสุขก็พอจะมี แต่ฉากสวีทที่โผล่มานานๆทีทำให้เรากรี๊ดมาก >< น่ารักสุดๆ แต่อารมณ์ของเรื่อง ณ ตอนนั้น ไม่ได้แฮปปี้เท่าไหร่หรอกนะ

 photo 18_zpsfa79442e.jpg
เมื่อได้รวบรวม ปะติดปะต่อเหตุการณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันแล้ว การคลี่คลายปัญหายังไม่พบว่าจะเป็นอย่างไรต่อ แต่โทวโกะเซนไปสามารถคลี่คลายเรื่องราวต่างๆ ถ่ายทอดออกมาเป็นวรรณกรรมและเธอก็ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง/ชมไปพร้อมๆ กัน

 photo 19_zpsd129a695.jpg
ฉากสวีทอีกแล้ว T^T อารมณ์ฉากนั้นก็ไม่ได้แฮปปี้เท่าไหร่อีกเช่นเคยค่ะ

แล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทาง ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามทางที่มันควรจะเป็น

โลกใบใหญ่ที่เราอาศัยอยู่ร่วมกันมีเพียงหนึ่งใบ แต่โลกใบเล็กๆ อีกมากมายที่สร้างจากประชากรบนโลกใบใหญ่นั้น เราทุกคนมีโลกส่วนตัว มีความฝัน มีความเชื่อ มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง โลกส่วนตัวของเราก็หมุนรอบตัวเราเหมือนกับโลกใบใหญ่ที่หมุนรอบตัวเองแล้วยังหมุนรอบดวงอาทิตย์อีก
ทำให้เราได้เห็นท้องฟ้ามืด/สว่าง มีเวลากลางวันและกลางคืน มีวันพรุ่งนี้ต่อไปเรื่อยๆ แบบอินฟินิตี้

เมื่อไปเกี่ยวข้องกับใครซักคนก็เหมือนไปรับสิ่งใหม่เพิ่มเข้ามาในโลก แต่คนคนนั้นก็จะเข้ามาเป็นเพียงส่วนหนึ่งในโลกของเรา ไม่ได้มาสร้างโลกใบใหม่แทนโลกใบเดิม ไม่ถึงกับว่าเปลี่ยนโครงสร้างใหม่หมดเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ แค่ปรับเปลี่ยนบ้างและโครงสร้างเดิมให้คงอยู่ไว้ก็น่าจะพอ ถ้าไม่สามารถอยู่ได้จริงเค้าก็จะก้าวออกไปเอง การพบปะผู้คนมากมายจะทำให้ได้เรียนรู้วิธีปรับตัวโดยที่ไม่ทำลายโครงสร้างของตัวเราเอง ลองเป็นเหมือนโลกใบใหญ่ที่ไม่ยอมให้มีแค่กลางคืนหรือกลางวันอย่างใดอย่างหนึ่งนั่นแหละ


 photo 20_zps09d2862b.jpg
สาวน้อยวรรณกรรม..
.
.
.
.
.
.

การสปอยด์ได้จบลงเพียงเท่านี้..
หากท่านใดสนใจรีบไปชมและไปอ่านกันได้..
ส่วนเราเองก็เหมือนกันหลังจากดูอนิเมะแล้วก็ตกหลุมรักเรื่องนี้มาก คงต้องรีบไปหยิบหนังสือมาอ่านแล้วละค่ะ มีเล่ม 2 แล้วด้วย พึ่งไปสอยมาจากงานหนังสือนี่เอง !!!

เกิดมีความสนใจเกี่ยวกับมิยาซาวะ เคนจิขึ้นมา พบว่าผลงานของเค้าที่ตีพิมพ์ที่ไทยก็มีนะคะ
และ "รถไฟสายทางช้างเผือก" ที่ถูกพูดถึงในเรื่องก็มี หน้าปกแบบนี้ค่ะ
 photo 1212685753_zps01579b16.jpg
แอบสนใจเหมือนกัน จะพยายามตามหามาอ่านให้ได้เลยค่ะ


สุดท้าย... น้องสาวโคโนฮะ น่ารักขนาดนี้เชียวนะ!!!

 photo 21_zpsc61f2dd8.jpg

และลาด้วยภาพเบบี้โทวโกะค่ะ
โอกาสหน้าถ้าขยันอีก จะมาเขียนยาวๆ และลงภาพเยอะๆ แบบนี้อีกนะคะ =]

 photo Natsuiro-subBungakuShoujoMemoirI-Yume-MiruShoujonoPrelude-DVD854x480x264AACA252FBA913-54-03_zps8233c9d4.jpg


ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก :
http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Book_Girl_episodes
http://www.amazon.com/Mizuki-Nomura
http://www.animecharactersdatabase.com
http://th.wikipedia.org/wiki/แมกโนเลีย
http://www.kenji-world.net/english

2556-01-07

จัดลำดับความสำคัญ.. = =''



Photobucket
* มอสบอลที่เคยดูแลอยู่ช่วงหนึ่ง...ตอนนี้หลุดหายไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ = =''

เริ่มปีใหม่ปีนี้เราอยู่ต่างจังหวัดค่ะ
กำลังอยู่ระหว่างการฝึกงาน ได้ลองปรับตัว และเจอกับอะไรหลายอย่างเลย
คิดว่า ถ้าผ่านจุดนี้ไปแล้ว จะทำให้เราเป็นผู้ใหญ่และโตขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแน่นอนค่ะ

เกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญ... เวลาและกิจกรรม

เวลามี 24 ชั่วโมงต่อวัน เรื่องนี้ใครๆก็รู้มาตั้งแต่เด็ก
ในแต่ละวัยนั้นเราจะใช้เวลาทำนั่น ทำนี่ไม่เหมือนกัน พูดง่ายๆคือ กิจกรรมที่ต้องทำก็จะเปลี่ยนไปตามวัย
ตอนเด็กเราเคยเล่นไปซะครึ่งค่อนวัน ใช้เวลากินข้าวแต่ละมื้อเป็นชั่วโมง
หรือแม้แต่จะนอนก็นอนไปเลยทั้งวันเลยก็มี...

พอเริ่มเข้าสู่สังคม เวลาส่วนหนึ่งก็ต้องแบ่งไปทำกิจกรรมร่่วมกับคนอื่นบ้าง
ไปเล่นกับเพื่อน เล่นคนเดียว ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน

โตขึ้นมาอีก เวลาอีกส่วนก็ต้องแบ่งไปให้กับการศึกษา
เวลาบางอย่างก็อาจจะถูกลดลงไป แต่ก็แบ่งๆกันใน 24 ชั่วโมงที่มีอยู่ดี

เคยลองนั่ง list เล่นๆกันไหมคะ
ว่าวันหนึ่งคุณทำอะไรไปบ้าง? ทำไปกี่อย่าง? แล้วแต่ละอย่างใช้เวลาเท่าไหร่กัน?

ถ้าเคยทำอะไรแบบนี้ มั่นใจว่าซักวันหนึ่งคุณต้องเขียน "planner" หรือ "calendar book" หรือ "บันทึกประจำวัน" แน่ๆ ------- เพราะเราก็เป็นแบบนั้น

พอเริ่มมีกิจกรรมมากขึ้น จะเป็นการบังคับให้คนเราต้อง "จัดการเวลา" ใ้ห้ balance กับงาน/กิจกรรมนั้นๆ
หรืออาจจะวางแผน... (แต่เวลาที่วางแผนแล้วไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้มันก็.....)

ตอนนี้เราฝึกงานเสมือนทำงานจริง แต่ยังต้องส่งงาน มีกิจกรรมบังคับให้ทำ
เวลาที่มีในแต่ละวันเลยต้องมีการจัดการ แบ่งเวลาในการทำสิ่งต่างๆเหล่านั้น
ทีแรกเราึคิดว่าจะไม่รอด แต่ไปๆมาๆ เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว
ผ่านมาเดือนกว่าๆ ยังไม่เคยตื่นสาย ไม่เคยส่งงานช้าเลย

แต่ขณะเดียวกัน งานอดิเรกเดิมๆของเรามันก็ถูกตัดเวลา ถูกเเบ่งเวลาไปทำอย่างอืื่น...
บางวันก็ยังได้สัมผัสเพียงน้อยนิด แต่บางวันก็หายไปเลย T T (ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างหลังมากกว่าค่ะ)

เพราะตอนนี้ 
1.ฝึกงาน
2.การบ้านรายวัน เรื่องที่ต้องค้นเพิ่มเติมตามความสนใจ
3.ความสะอาดที่อยู่อาศัย/ตัวเอง
4.ปากท้อง(อาหารการกิน)
5.สังสรรกับเพื่อนร่วมที่อยู่
6.ชาร์จแบต (นอน)
7. งานอดิเรกและอื่นๆ

ส่วนใหญ่มักจะทำๆถึงแค่ข้อ 6 เองค่ะ แต่ก็คิดว่าเป็นการจัดการเวลา และลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำได้ดีสำหรับเราแล้วล่ะ T[]T -------- (ร้องไห้คิดถึงอนิเมะ หนังสือการ์ตูน หนังสือนิยาย นิตยสาร เพื่อนในโลกออนไลน์ กระทู้ในเว็บบอร์ดต่างๆ นานาที่เป็นสมาชิก การอัพเดทข่าวสารอนิเมะ/ศิลปินที่ชื่นชอบ )
นี่สินะ หนทางสู่การเป็นผู้ใหญ่!!!!!!!!! (แต่ตอนนี้มันเจ็บปวดมากค่ะ)

เมื่อเราได้ดูอนิเมะ ก็จัดลำดับความสำคัญอีก
แต่ก่อนเรื่องที่ต้องรีบดูจะเป็นเมะใหม่ๆที่ออกในช่วงนั้น ต้องอัพเดท! ไม่งั้นคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง
แต่ตอนนี้ อยากดูเรื่องที่อยากดูจริงๆก่อน จะดูไปแล้วหลายรอบก็ช่าง เมะใหม่ๆยังไม่อยากดูก็เอาไว้ก่อน
เพราะให้ความสำคัญกับความรู้สึกตัวเอง(ที่อยากดูเรื่องไหน) มากกว่าการไปพูดคุยกับคนอื่น
----- แบบนี้ดีไหมนะ 5555 (ไร้สาระ !!!)

แต่ก็มีเรื่องที่เราลำดับความสำคัญไม่ได้เหมือนกัน

และคิดว่าไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เป็นช่วงวัยไหนก็จะยังคงเหมือนเดิม
เราจะลำดับความคัญเรื่องนี้ไม่ได้ซักที

ตามระยะของพัฒนาการ (หยิบวิชาการมานิดหน่อย) ช่วงวัยของเรามันน่าจะหลุดพ้นจากการยึดติดกับเพื่อนได้แล้วล่ะ น่าจะกำลังสนใจเรื่องคู่ครองอะไรทำนองนั้นมากกว่า (พูดซะน่ากลัว = ='')

แต่เราเป็นคนติดเพื่อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่รู้ทำไม
ถ้ารักเพื่อนคนไหนแล้วจะคิดว่าเพื่อนๆนั้นคืออันดับหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ (ก่อนตัวเองด้วยนะ)
ไม่รู็้ว่าทำไม (อีกนั่นแหละ) เราไม่ได้คิดว่าต้องทำดีกับเพื่อนไม่งั้นเพื่อนจะทิ้งเรา แต่เราคิดว่าเรามีเพื่อนเราต้องทำดีกับเพื่อนให้มากๆ เราไม่อยากให้เพื่อนลำบากใจ หรือเดือดร้อนเพราะเรา

เราชอบดูแลคนอื่น ชอบเลี้ยงคนอื่นเพราะเราอยากเลี้ยง ทำอะไรให้คนอื่น หรือใช้เงินตัวเองเพื่อคนอื่นแล้วรู้สึกดี (?)
เพราะเวลาเรามีความสุข เรารู้ตัวว่ามีความสุข แต่บอกคนอื่นไปใครก็ไม่เข้าใจเราหรอก

ต่างกัน...เวลาที่เราพยายามทำบางอย่างที่ (+) ให้ใครซักคน เราก็มีความสุข แล้วก็เห็นว่าคนอื่นเค้าก็มีความสุขชัดเจน

เราเคยทำอะไรใ้ห้เพื่อนแบบที่เรารู้ว่าตัวเองทำอะไร แต่ทางนั้นไม่รู้เลยว่าเราทำให้ก็มี แค่เห็นการตอบรับว่าเค้ามีความสุข เราก็พอใจ



แต่พอลองมานึกถึงตัวเองบ้างว่านอกจากความสุขที่เป็นความรู้สึกแล้ว เราได้อะไรกลับมาเป็นนามธรรมบ้างไหม?
เป็นเรื่องธรรมดา เราไม่ใช่คนดีที่จะไม่คิดหวังผลตอบแทนซะทีเดียว



ในหนึ่งวันเรามีึความรู้สึกหลายแบบใช่ไหม? แล้วเราก็มีอารมณ์หลายแบบเหมือนกันใช่ไหม?
เพราะสองอย่างนี้มันเกิดขึ้นตามสถานการณ์ที่เผชิญ ดีก็ (+) ไม่ดีก็ (-) ไปตามนั้น



พอกลับมานึกถึงตรงนี้ กลายเป็นว่าเราเป็นคนนึงที่ "ใจน้อย" และ "ชอบน้อยใจ" เพื่อนมาก



เคยมีคนบอกว่า เราเป็นคนทำให้เพื่อนเสียนิสัยเอง เพราะืำทำให้เค้าเป็นผู้รับฝ่ายเดียวเลยเป็นผู้ให้ไม่ได้



แต่บางครั้งตัวเราก็ยังคิดเองเลยว่า เราเลือกจะทำแบบนั้นไปแล้วจะมาคิดอย่างนี้ไปทำไม? (นั่นสิ?)




เราคิดว่าคนในครอบครัว  เป็นคนที่มีน้ำใจและเจตนาในการให้ที่บริสุทธิ์ที่สุดแล้ว เพราะท่านไม่ได้ต้องการผลตอบแทนแน่นอน T T ------- นี่สินะ ผู้ใหญ่



มาถึงตอนนี้พิมพ์ไปเราก็เกิดเป็นทุกข์ใจเองว่า แล้วสิ่งที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง เค้าจะยินดีตามที่แสดงออกจริงหรอ? แล้วเค้าจะคิดยังไงเวลาที่เรา (+) ?
หรือที่ผ่านมาเราอาจจะเยอะไป จนเค้ารับไม่ได้ และตอบสนองเป็น (+) กลับมาให้เราไม่ได้บ้าง เค้าไม่ได้ต้องการเลย แต่เราให้เค้าไปเอง (พิมพ์แบบนี้แล้วรู้สึกเจ็บปวด = ='' แต่มันก็เป็นความจริงที่อาจจะเป็นไปได้ละนะ)
เป็นการกระทำ/คำพูดที่เกินความจำเป็น เกินความต้องการ ไหมนะ?



พอมาคิดแบบนี้ก็รู้สึก "เสียดายจังค่ะ"


เราแค่อยากรู้ว่าเค้าเคยนึกถึงเราบ้างไหม ในขณะที่เรานึกถึงแต่เค้าตลอด
เวลาที่เค้าจะ (+) แล้วเราต้อง (-) เรายังยอมเลย เพราะเราไม่อยากให้ (-) และ (-) ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

เวลาที่เราแสดงออกว่าเรา "มีความรู้สึก (-)" เค้าก็จะแสดง "ความรู้สึก (+)" ออกมาให้
แ้ล้วเราก็จะเปลี่ยนเป็น "ความรู้สึก (+)" อย่างเร็วมาก เพราะไม่อยากให้มัน (-) นานเกินไป
(+) ตรงนี้คือ การแสดงความรู้สึกว่า รู้ว่างอน แล้วก็มาง้ออย่่างเร็ว
พอเจออย่างงั้นแล้วเราก็เปลี่ยนเป็น (+) เร็วมาก ......ความรู้สึกมันเปลี่ยนแปลงง่ายจริงๆ


ที่ต้องการคือ ไม่ได้อยากให้ทำดีกับเราเฉพาะเวลาที่รู้ว่าเราโกรธ
เค้ารู้แ่น่นอนว่าเราเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว
ถ้าเราไม่โกรธง่าย ไม่น้อยใจ ก็คงจะไม่ได้ (+) กลับมาเลยสินะ ?

เราไม่อยากให้คนอื่นโกรธเรา-น้อยใจเรา แต่คนอื่นกลับชอบทำให้เรารู้สึกแบบนั้นซะเอง



เรื่องที่ึคนอื่นว่ามันเล็กน้อยไม่มีค่าพอจะทำให้ึคนอื่นดีใจหรือมีความสุข สำหรับเราแล้วมันยิ่งใหญ่มาก




คิดว่าถ้าความสัมพันธ์และผลประโยชน์ของคนเรา (-) (-) = (+) เหมือนคณิตศาสตร์ได้ก็คงจะดี
ตอนนี้เราติด - เยอะมาก ถ้าเป็นนักธุรกิจหรือห้างร้านซักแห่ง ตอนนี้คงล้มละลายไปแล้วล่ะ

ต่อไปคงต้องรู้จักปล่อยวางบ้าง ในเมื่อทำไปแล้วเราก็เจอแต่ (-) กลับมาตลอด
ไม่มีกำลังใจจะ (+) ไปให้อีกแล้วล่ะ


ซักวันเราก็จะโตไปเอง ทั้งความคิดและจิตใจ

My goal >>> ปีนี้ต้องให้ความสำคัญกับตัวเองใ้ห้มาก เอาเรื่อง-จิตใจคนอื่นไปไว้อันดับหลังๆ ซะ!!!


และเป็นเหมือนกับ pill bug 
Photobucket